Interview Checklist

“Download Interview Checklist (สำหรับผู้สัมภาษณ์)”

มีคนตกงานจำนวนมากและมีบริษัทประกาศรับสมัครงานจำนวนมากและเป็นเช่นนี้ทุกปีเพราะอะไร?

“การจับคู่ที่ไม่ตรงความต้องการ” ระว่างบริษัทกับผู้สมัครงาน เช่น บริษัทต้องการ คนฉลาด เก่ง ดี ขยัน พูด อ่าน เขียนได้ 3 ภาษา ค่าจ้างถูก ผู้สมัครต้องการ เงินเดือนสูง ทำงานน้อย สบาย วันหยุดเยอะ สวัสดิการดี ธุรกิจมั่นคง นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ยังมีคนตกงานและบริษัทก็ยังหาคนทำงานไม่ได้อยู่จำนวนมาก ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน

บริษัทต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ (Re-Structure)

การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ (Re-Structure) ด้วยการแบ่งฝ่ายงานต่างๆ ในบริษัทใหม่ลดความซ้ำซ้อนและตัดส่วนงานที่โบราณและล้าหลังออกไป ด้วยการออกแบบงาน (Job Design) และหน้าที่งาน (Job Role) และการประสานงานใหม่ (Flow co-ordinate) และจัดระบบงานใหม่ให้เป็นแบบอัตโนมัติมากที่สุดลดสัดส่วนที่ต้องใช้คนทำงานลงเป็นใช้ระบบและโปรแกรมอัตโนมัติทำงานแทน (Reset working system-Office Automation) โดยกำหนดสัดส่วนเริ่มต้นจาก 70:30 > 50:50 > 80:20 > 90:10 (คน70%:ระบบอัตโนมัติ30%) เป็นต้น ส่วนต้องทำแบบไหนอย่างไรบ้างต้องขึ้นอยู่กับแต่ละรูปแบบและลักษณะธุรกิจของแต่ละบริษัทที่ทำซับเบรนจะพูดในภาพกว้างเท่านั้น (ปรึกษาซับเบรนได้เป็นการเฉพาะราย)

บริษัทไม่สามารถจะหาคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้ในคนๆ เดียวในเวลาและจำนวนที่ต้องการได้อย่างแน่นอนหากไม่มีการปรับระบบงานและการบริหารจัดการใหม่ก็ต้องประกาศรับสมัครงานไปเช่นนี้ทั้งปีทั้งชาติ สิ่งที่บริษัทต้องปรับใหม่ด้วย คือ เช่น

  • โครงสร้างผลตอบแทน เงินเดือน/ค่าจ้าง แข่งขันกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้หรือไม่ อย่าลืมว่าเงินเดือน/ค่าจ้างตลาดแรงงานเป็นผู้กำหนด ถ้าจ้างในราคาต่ำกว่าคู่แข่งบริษัทก็จะได้คนคุณภาพต่ำกว่าคู่แข่งมาทำงาน
  • สวัสดิภาพ สวัสดิการต่างๆ ดีพอหรือไม่
  • บรรยากาศสภาพสถานที่ทำงานดีพอหรือไม่
  • อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ เอื้ออำนวยต่อการทำงานดีพอหรือไม่
  • การจัดสัดส่วน พื้นที่ โต๊ะ เก้าอิ้ต่างๆ ห้องประชุมดีพอหรือไม่  
  • คู่มือการทำงาน การฝึกอบรม เทรนนิ่ง พนักงานดีพอหรือไม่
  • และอื่นๆ

“บริษัทที่จะอยู่รอดในโลกยุคดิจิทัล หากยังใช้คนทำงานแบบ 100% บอกเลยไปไม่รอด”

ผู้สมัครงาน

ในส่วนของผู้สมัครงานหากยังคิดและหางานในแบบวิธีการเดิมๆ ก็ต้องหางานไปตลอดชีวิต เช่น หว่าน (ส่ง) ใบสมัครไปเป็นร้อยบริษัทได้บริษัทไหนก่อนก็ทำบริษัทนั้น ไม่มีการ Focus ว่าต้องการทำงานอะไร ธุรกิจลักษณะไหน บริษัทอะไร ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่

  • Focus อาชีพและอนาคตที่ตัวเองต้องการให้ชัดก่อนหางานทำ
  • ตรวจสอบความรู้ ความสามารถ ฝีมือของตัวเองก่อนดีพอหรือไม่
  • ศึกษาว่าตลาดแรงงานยุคดิจิทัล ต้องการคนประเภทไหน ความรู้และฝีมือระดับใด
  • Reskill ทบทวนความรู้ ความสามารถ ทักษะของตัวเองใหม่ว่าตรงกับตลาดแรงงานต้องการหรือไม่
  • Upskill ให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยเที่ยบเท่าหรือเหนือกว่าที่ตลาดแรงงานต้องการ
  • Skill set ของตนเองมีพร้อมและครบทุกด้านในโลกยุคดิจิทัลหรือยัง
  • ทำ Checklist ตัวเอง เช่น นิสัยขยัน-ขี้เกียจ, ความรับผิดชอบห่วย-ใช้ได้, หน้าตาบุคลิกดีหล่อสวย-ธรรมดา-ห่วย, สุขภาพดี-ขี้โรค, ปัญหาส่วนตัวไม่มี-เพียบ, รสนิยมสูงรายได้ต่ำหรือไม่และอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบตัวเองอย่างไปตรงมาก่อนไปสมัครงาน
  • ถ้าสรุปแล้วว่าตนเองเป็นคนโง่อย่าไปสมัครงานบริษัทฉลาด ๆ เด็ดขาด ถ้าต้องการทำงานบริษัทฉลาด ๆ ต้องเป็นคนฉลาดก่อนจึงมีโอกาสที่จะได้งาน (บางคนถูกเรียกไปสัมภาษณ์ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทชื่ออะไร ทำธุรกิจอะไร)
  • ประเมินตัวเองก่อนเรียกเงินเดือน (บางคนเรียกเงินเดือน 5 หมื่น แต่คุณภาพแค่ 5 พัน) อย่างนี้จะไม่มีทางทางได้เงินเดือนตามที่ต้องการแน่นอน

“อย่าลืมว่าการหางานทำยุคดิจิทัลมันไม่ได้แข่งแต่กับคนเท่านั้น มันยังแข่งกับหุ่นยนต์และ AI ด้วย”

สรุป

ทั้งบริษัทและคนหางานต้องปรับตัวเองทั้ง 2 ฝ่ายใครปรับเปลี่ยนตัวเองได้ก่อนและดีกว่าก็จะเป็นฝ่ายอยู่รอดได้ในโลกยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและแข่งขันสูง

ซับเบรนทำ Checklist การสัมภาษณ์ให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละบริษัทได้

ติดตามบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ SBC Blog

LINE OA: SUBBRAIN

Facebook: SUBBRAIN

ติดตาม SUBBRAIN ได้ที่นี่

Categories: Business